บทความที่ได้รับความนิยม

วันอังคารที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

เรียนรู้ร่วมกันสร้างสรรค์ชุมชน

เรียนรู้ร่วมกันสร้างสรรค์ชุมชน
โสภณ  เปียสนิท
..................................

                บรรยากาศตามสถานศึกษาในช่วงผลัดเปลี่ยนฤดูกาลจากหน้าหนาวเข้าสู่หน้าร้อนเช่นนี้ดูคึกคักมีสีสรรพ์น่าสนใจ การสอบปลายภาคกำลังจะถึงวันสุดท้ายแล้ว มองเห็นรอยยิ้ม และร่องรอยความเศร้าหมองจากดวงหน้าของนักศึกษาที่เดินผ่านไปมาอย่างเด่นชัด บางกลุ่มยุ่งอยู่กับการจัดทำรายงานให้เสร็จทันตามเวลาที่อาจารย์กำหนด บางกลุ่มกำลังเตรียมการนำเสนอผลงาน บ้างก็จับกลุ่มเตรียมการจัดงานอำลาระหว่างกัน บางกลุ่มพูดคุยกันเรื่องการหาที่ทำงาน หลากหลายลีลาและอารมณ์

นักศึกษาสามกลุ่มแวะเวียนเข้ามาหาที่ห้องทำงาน แต่ละกลุ่มมีบัตรเชิญสีสวยมาให้ด้วย เป็นบัตรเชิญร่วมงานวันอำลา (เรียกภาษาวัยรุ่นว่างานบายเนี่ยร์ bye–noir)ของรุ่นพี่รุ่นน้องของแต่ละสาขาวิชา ผมสังเกตเห็นความกระตือรือร้นวับแวมอยู่ในแววตาของนักศึกษาเหล่านี้ ทราบโดยนัยว่าพวกเธอเหล่านี้บางคนเป็นนักศึกษาปีที่หนึ่งของหลักสูตรสี่ปี ระดับปริญญาตรี บางคนเป็นนักศึกษาปีที่หนึ่งของหลักสูตรระดับปริญญาตรี สองปี (หมายถึงจบระดับ ปวส. แล้วมาเรียน) บางคนเป็นนักศึกษาชั้นปีที่หนึ่งของระดับ ปวส.

                ผมเห็นว่าน่าสนใจ และเป็นโอกาสดีที่จะได้พูดคุยเพื่อหาข้อมูลในด้านลึก จึงได้ชวนเธอเหล่านั้นพูดคุยเพื่อเป็นการปฏิสันถาร การสอบเป็นอย่างไรบ้าง” “ก็ดีค่ะพอทำได้ แต่มันก็ผ่านไปแล้วนี่ค่ะ ช่วงนี้อย่าเพิ่งคุยเรื่องนี้เลย ยังปวดหัวไม่หายเลย” “แล้วนี่ยังไง จัดกันที่ไหน แพงหรือเปล่า?”

ผมทำทีเป็นชวนพูดคุยเรื่อย ๆ เหมือนเป็นการทักทายตามปกติ ทั้งที่เป็นห่วงเรื่องงบประมาณค่าใช้จ่ายของพวกเธอ เพราะรู้ว่าค่าใช้จ่ายในงานเกือบทั้งหมดคือหยาดเหงื่อของผู้ปกครอง ซึ่งโดยส่วนมากแล้วเป็นคนชั้นกลางไล่เรื่อยไปจนถึงเป็นผู้มีรายได้ค่อนข้างน้อย บางคนทำงานส่งตัวเองเรียน ซึ่งก็มีทั้งที่ทำงานเต็มเวลา และทำงานบางเวลา (Part time) บางคนกู้ยืมเงินรัฐบาลเรียน แต่เขาและเธอเหล่านั้นยินดีที่จะเสียสละเพื่อกิจกรรมนี้

บางกลุ่มจัดโดยอาศัยสถานที่ภายในสถานศึกษา ซึ่งก็นับว่าดีมาก เพราะอย่างน้อยก็จะได้ประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้ส่วนหนึ่ง และอีกประการหนึ่งนักศึกษาเหล่านี้ยังอยู่ใกล้หูใกล้ตาคณะอาจารย์ ซึ่งพอช่วยกันดูแลได้บางส่วน บางกลุ่มมีจำนวนมากพอและพอจะรวบรวมเงินกันจัดงานตามโรงแรม ในกรณีนี้แม้จะรู้ว่าน้ำเชี่ยวอย่าเอาเรือไปขวาง แต่ผมก็อดไม่ได้ที่จะต้องตักเตือนให้ระมัดระวังเรื่องความไม่เหมาะสมต่าง ๆ ซึ่งอาจเกิดขึ้นเพราะความคึกคะนอง ประมาท รู้เท่าไม่ถึงการณ์ ฯลฯ ทำให้สีหน้าท่าทีของพวกเธอเริ่มเปลี่ยนไป ผมก็ต้องเปลี่ยนเรื่องคุยเพื่อให้พวกเธอสบายใจ

                จำได้ว่าเมื่อปีที่แล้วเมื่อปีที่แล้วผมก็ได้รับเชิญร่วมงานเช่นนี้สองสามงาน สังเกตเห็นว่างานเลี้ยงอำลาระหว่างรุ่นได้กลายเป็นประเพณีไปแล้วโดยวิธีปฏิบัติต่อเนื่องกัน มองได้สองมุมนะครับ ทั้งเชิงลบและบวก คือมีทั้งข้อดีและเสีย พวกที่สนับสนุนก็ว่า เป็นการแสดงให้เห็นถึงความรักสามัคคีระหว่างพี่น้อง เป็นการแสดงถึงความผูกพันระหว่างกันและเชื่อมโยงไปถึงความรักในสถานศึกษาด้วย เป็นการผ่อนคลายภายหลังการสอบปลายภาคอันเคร่งเครียด เป็นการแสดงความเคารพรักรำลึกถึงครูอาจารย์อีกครั้ง เป็นการแสดงถึงความเป็นผู้ใหญ่รู้จักคิดและตัดสินใจทำในสิ่งที่เห็นว่าถูกต้อง ฯลฯ

ส่วนที่เป็นข้อคิดในทางลบก็มีไม่น้อยเช่นกัน จะว่าสิ้นเปลื้องก็ว่าได้ จะว่าเสียเวลาก็ได้ เนื่องจากความเป็นวัยรุ่น อาจมีการดื่มกินจนเกินเลย ก่อให้ทำความผิดพลาดในด้านอื่น ๆ ได้ง่าย ๆ ข้อนี้ก็มีอาจารย์หลายท่านยกขึ้นเป็นประเด็นไม่เห็นด้วยกับการจัดงาน

ท่ามกลางกิจกรรมหลากหลายในวงการศึกษาที่กำลังดำเนินไป หากผมไม่ได้กล่าวถึง โครงการเรียนรู้ร่วมกัน สร้างสรรค์ชุมชนของรัฐก็ดูว่าผมจะตกข่าวแน่ ๆ โครงการนี้เป็นโครงการใหญ่ที่ค่อนข้างจะเร่งรัด ได้รับการผลักดันให้เกิดขึ้นภายในระยะเวลาหนึ่งเดือน โดยมีงบประมาณ 107 ล้านเศษเป็นค่าดำเนินการ คาดว่าจะมีนักศึกษา ชั้นปีที่ 3-4 จำนวน 6,080 คนเข้าร่วมโครงการ โดยมีระยะเวลาเข้าร่วมโครงการสองเดือนระหว่างวันที่ 1 เมษายน – 31 พฤษภาคม มีค่าตอบแทนให้นักศึกษาเหล่านี้ 10,000 บาท โดยกำหนดให้มีอาจารย์ที่ปรึกษา 301 คน มีค่าตอบให้ 20,000 บาท

                งานของนักศึกษาโดยคร่าว ๆ ก็คือให้นิสิตนักศึกษาลงพื้นที่ไปศึกษา สำรวจ วิเคราะห์พัฒนาและทำกิจกรรม ในด้านต่าง ๆ ตามที่ทบวงมหาวิทยาลัยกำหนด เช่น กิจกรรมหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ อินเตอร์เน็ตตำบล สิ่งแวดล้อม สาธารณสุข ศาสนาศิลปวัฒนธรรม เป็นต้น พร้อมกับเก็บข้อมูลไปด้วย ดูตามโครงการแล้วกล่าวได้ว่าน่าสนใจ

                ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่นักศึกษาของสถาบันราชภัฏและสาถาบันเทคโนโลยีราชมงคลเข้าร่วมโครงการกับนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยต่าง ๆ อย่างเป็นทางการ นับเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่สถานศึกษาระดับอุดมศึกษาได้เริ่มประสานกันตามแนวทางของพระราชบัญญัติการศึกษาปี 2542 ที่มีเป้าหมายให้ทุกสถานศึกษาในระดับอุดมศึกษาอยู่ภายใต้หน่วยงานเดียวกันคือสภาคณะกรรมการการอุดมศึกษา

                วันรับสมัครเมื่อ 25 กุมภาพันธ์ – 31 มีนาคม ที่ผ่านมา ตามข้อมูลที่ได้รับทราบปรากฏว่ามีนักศึกษาสนใจพอสมควรแต่มีข้อที่น่าพิจารณ์อยู่บ้าง เช่นนักศึกษาชั้นปีที่สามติดภารกิจการเรียนในภาคฤดูร้อน หรือไม่ก็การฝึกงาน นักศึกษาชั้นปีที่สี่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกที่มีผลการศึกษาดีมักมองข้ามโครงการนี้ เนื่องจากเห็นว่า ในระยะเวลาสองเดือนควรเป็นเวลาแห่งการหางานที่มีผลตอบแทนดี และมีความมั่นคงดีกว่า นักศึกษาบางส่วนต้องออกค่ายอาสาพัฒนา โครงการที่ได้ดำเนินการต่อเนื่องกันมาก่อนหน้านี้แล้ว บางคนเห็นว่าโครงการนี้เป็นโครงการระยะสั้น แต่มีความแน่นอนดังนั้นจึงสมัครเข้าร่วมโครงการไปก่อน ในระหว่างที่กำลังรองานที่ได้ยื่นใบสมัครไว้แล้ว ซึ่งหากเป็นไปตามนี้ คงมีนักศึกษาบางส่วนที่ได้งานทำขอออกหรือไม่ก็หนีออกจากโครงการก่อนกำหนดเพื่อไปทำงานที่มีความมั่นคงดีกว่า

                เมื่อวันก่อนผมและคณะเดินทางไปประสานงานโครงการ พบพัฒนากรอำเภอ ซึ่งเป็นมีบทบาทสำคัญตามโครงการในด้านการประสานงานระหว่างท้องถิ่นกับสถานศึกษาที่จัดนักศึกษาลงสู่ท้องถิ่น ท่านคุยความจริงให้ผมฟังว่าว่า ยังไม่รู้เรื่องนี้อย่างเป็นทางการมาก่อนเลย เท่าที่พอรู้บ้างก็เพราะอ่านเอาจากหนังสือพิมพ์ตามที่เป็นข่าว เป็นอันว่าคณะของเราต้องคุยกันตั้งแต่เริ่มต้น ทั้งเรื่องความเป็นมาของโครงการ รายละเอียดของโครงการ จำนวนนักศึกษาของแต่ละตำบล สถานที่พักของอาจารย์นิเทศก์และนักศึกษา การนัดประชุมเพื่อประสานขอความร่วมมือในวาระแรก เพื่อเตรียมงานปฐมนิเทศนักศึกษาให้ทันตามกำหนดในวันที่ 1 เมษายน 2545

                มีคำถามที่คณะทำงานต้องตอบให้ได้ก่อนจะถึงวันที่ 1 เมษายนก็คือ จะให้นักศึกษาและอาจารย์ที่ปรึกษาจะกินอยู่หลับนอนอย่างไรในท้องถิ่นที่ไม่ใช่บ้านของตน คงต้องเลือกเอาระหว่างให้อยู่ร่วมกันเป็นศูนย์กลางแล้วแยกย้ายกันทำงาน หรือให้แยกย้ายกันอยู่กับครอบครัวของชาวบ้านที่มีศักยภาพที่พอจะรับรองได้บ้านละสองถึงสามคน คณะของเราตัดสินใจใช้วิธีที่สอง โดยเห็นว่าจะทำให้นักศึกษากลมกลืนกับวิถีแห่งชุมชน และจะรับความรักและการดูแลเหมือนดังเป็นลูกหลาน ซึ่งมีความปลอดภัยสูงกว่า ผมหวังไว้ว่าโครงการนี้จะประสบความสำเร็จตามวัตถุประสงค์ ด้วยดี

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น