บทความที่ได้รับความนิยม

วันอังคารที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

วิถีนักบวช

วิถีนักบวช
โสภณ  เปียสนิท
……………………………

                เจ็ดปีกว่ามาแล้ว ที่ผมมาเป็นอาจารย์สอนอยู่ที่สถาบันเทคโนโลยีราชมงคลวิทยาเขตวังไกลกังวล เพิ่งจะมีเมื่อคืนนี้เอง ( 14 กันยายน 2544) ที่ผมเกิดความรู้สึกแปลกที่ เหมือนไม่ใช่คนที่อยู่ที่นี่มานานถึงเจ็ดปี ผมกำลังจะเล่าสาเหตุให้ทราบครับ

                เมื่อวันที่ 13 กันยายน ช่วงเช้าผมไปทำธุระให้คุณแม่บ้านที่ธนาคารกรุงเทพฯสาขาหัวหิน ขณะที่กำลังยืนตรวจสอบความถูกต้องของยอดเงินในบัญชี (ก็มีติดบัญชีอยู่แค่หนึ่งพันเศษเท่านั้นครับ) ชายรูปร่างสันทัดผิวค่อนข้างคล้ำ ตัดผมทรงทหาร ใส่เสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีเขียว กางเกงสแล็ค เดินเข้ามายืนข้างหน้าห่างสักสองสามก้าว ทำทีเหมือนกำลังพูดโทรศัพท์ แต่เอ่ยชื่อผมถึงสองครั้งว่า ใช่พี่โสภณหรือเปล่าครับ?” วิธีแก้เสียฟอร์มจากการทักคนผิดแบบนี้นับว่าได้ผล ผมหันไปดูอย่างพินิจ เขาทำทีเป็นพูดโทรศัพท์ต่อเหมือนมีเรื่องพูดคุยอยู่กับใครสักคนอย่างติดพัน ผมเริ่มจำได้ว่าเขาเหมือนเพื่อนเก่าของผมคนใดคนหนึ่งซึ่งอยู่ในความทรงจำอย่างเลือนลาง

                เขาทำทีเหมือนเงยหน้าจากการสนทนา หันมาทักผมเป็นครั้งที่สามว่าพี่โสภณใช่หรือเปล่าครับ ผมพยักหน้าเป็นเชิงตอบรับ หลังจากได้พูดคุยกันสักครู่จึงจำได้ว่าเขาน่าจะเป็นเพื่อนพุทธศาสตร์บัณฑิตรุ่น 35 มหาวิทยาลัย มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยแน่ แต่ผมก็ยังนึกชื่อของเขาไม่ออกอยู่ดี จึงกล่าวคำขอโทษและถามตรง ๆ เขาจึงได้คำตอบว่าผมวินัยครับ คิดว่าพอจำผมได้นะครับ

                เท่านั้นแหละครับผมถึงกับตาสว่าง ภาพเก่าของสามเณรวินัยโลดแล่นขึ้นมาในความทรงจำของผมอย่างชัดเจนเหมือนส่องด้วยกระจกเงาชั้นดี ที่ผ่านการทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ

                วินัยมีนิสัยเอาจริงเอาจังกับการศึกษา ถึงขนาดสอบได้เปรียญธรรม 7 ประโยค ผลการเรียนที่มหาจุฬาฯ ก็ถือว่าอยู่ในระดับแนวหน้า เขามีนิสัยชอบร้องเพลง ชอบเล่นดนตรี และเชื่อมั่นในตัวเองสูง เพราะความที่เชื่อมั่นในตัวเองสูงนี่เองเป็นเหตุให้เขามักมีเรื่องวิวาทกับคนรอบข้างเสมอ ทั้งที่เป็นฆราวาสและบรรพชิต แต่เขาก็เอาตัวรอดมาได้อย่างปลอดภัยเสมอ

                หลังการอบรมกรรมฐานที่สวนไผ่ พุทธมณฑลสิบห้าวัน และรับปริญญาพร้อมกันแล้วพวกเราเหมือนนกบินออกจากรวงรัง ต่างคนต่างเลือกวิถีชีวิตของตัวเองตามความมุ่งหวัง แยกย้ายกันไปคนละทิศคนละทาง อาจมีการได้พบปะกันบ้างแต่ก็ห่าง ๆ หรือไม่ก็เป็นกลุ่มเล็ก ๆ

                ผมเดินทางไปศึกษาต่อปริญญาโทด้านวรรณคดีอังกฤษที่มหาวิทยาลัยพูณ่า ประเทศอินเดีย (แม้จะเป็นประเทศอินเดีย แต่ก็อาจกล่าวให้เท่ได้ว่าผมเป็นนักเรียนนอกกับเขาเหมือนกันนะครับ) ประเพศ สึกแล้วเดินทางตามผมไปเรียนด้วยกัน สมชัยเรียนต่อปริญญาโทที่มหาจุฬาฯ ถาวรไปทำงานด้านโรงพิมพ์ แสนไปทำงานกับบริษัทตรางู สำเนียงเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยศิลปากรและเป็นอาจารย์สอนไปด้วยในเวลาต่อมา หลายรูปไปเป็นเจ้าอาวาสอยู่ต่างประเทศ

                เย็นวันที่14 วินัยโทรมาตามผมให้ออกไปนั่งคุยกันที่ตลาด เมื่อผมไปถึง บนโต๊ะตัวที่วินัยนั่งกับเด็กหนุ่มอีกคนทราบในเวลาต่อมาว่าเป็นลูกน้องที่ทำงานด้วยกัน มีถั่วราดน้ำมะนาวอยู่หนึ่งจาน กับขวดเบียร์เปล่าอีก 6 ขวด เขาลุกขึ้นต้อนรับและสั่งเบียร์อัลกอฮอลล์ต่ำมาให้ผมอีกขวดหนึ่ง หลังการซักถามถึงความหลังกันได้สักชั่วโมงครึ่งเขาชวนผมไปนั่งฟังเพลงต่อที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งใกล้วัดหัวหินตามสไตล์นักดื่มที่ดี

                นับสิบปีที่ไม่ได้เจอเพื่อนจึงไม่อยากขัดใจผมตามเขาไปทั้งที่รู้สึกขัดๆ เขิน ๆ ชอบกล ร้านเป้าหมายของเรา ด้านขวาคือประตูวัดอันหมายถึงเขตแดนแห่งความสงบ ด้านซ้ายคือประตูแห่งบันเทิงสถานอันอึกทึกและเร่าร้อนตามอำนาจความต้องการส่องเสพทางโลก ผมเดินตามเพื่อนเหมือนบ้านนอกเข้ากรุง ขณะกำลังจะผ่านเข้าประตู สาวน้อยร่างท้วมชุดดำตรงรี่เข้ามาต้อนรับอย่างบริกรมืออาชีพ สวัสดีค่ะอาจารย์ มาที่นี่ด้วยหรือ?” เธอพูดพร้อมพนมมือไหว้แบบนอบน้อม ผมสะดุ้งเล็กน้อย (ดีที่รักษาอาการไว้ได้) รีบพนมมือรับไหว้ อืมม์ พอดีเพื่อนชวนมาผมตอบเสียงราบเรียบให้เป็นธรรมดาโยนความผิดให้เพื่อนตามหลักการเอาดีใส่ตัว เอาชั่วใส่คนอื่น เธอเชิญผมเข้าร้านพร้อมนำไปนั่งแถวหน้าสุด

                ร้านเป็นบ้านไม้สองชั้น ตรงเวทีโล่งไร้เพดานเพื่อให้คนที่นั่งชั้นสองมองลงมาตรงเวทีได้ เสียงไฟสีต่าง ๆ สลัวแต่หลากหลายกระพริบพราย เหวี่ยงวนไปมา เหมือนที่เห็นตามเวทีคอนเสิร์ตทางหน้าจอทีวี บอกไม่ถูกว่าควรจะตื่นตาตื่นใจหรือควรจะมืดหน้าตาลายดี นักร้องเพลงร็อคมีชื่อเสียงกำลังวาดลวดลายอยู่บนเวที พร้อมนักดนตรีสามคน ลูกค้ามีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติทั้งผู้หญิงผู้ชาย มองกลับที่โต๊ะเบียร์สามขวดไม่รู้ว่ามาตั้งอยู่ตั้งแต่เมื่อไร

                จิบเบียร์ไปมองรอบข้างไป อีกทั้งฟังเพลงไป ความเพราะคงไม่ต้องถามผม เพราะเพลงร็อคไม่ใช่รสนิยมของผม ความมันน่าจะพอมีบ้างเพราะได้บรรยากาศพาไป สาวใหญ่ร่างท้วมชุดขาวไว้ผมสั้นลุกขึ้นเต้น เพื่อนสาวที่มาด้วยอีกสองคนรวมแจมมาติด ๆ เริ่มจากริมห้องด้านขวาจนมาถึงกลางเวทีด้านล่าง ฝรั่งชุดดำร่างเตี้ยลุกขึ้นเต้นบ้างชนิดตาเยิ้มเบียร์

                รอบนอกมีกลุ่มสาวประเภทสองนั่งโยกไปมาอยู่ห้าหกคนท่าทีเหมือนนั่งทับก้อนหิน บางคนลุกขึ้นเต้นในลีลาเกาะเสาแบบระบำเปลื้องผ้ายุคเก่า ถัดมาฝรั่งกับแฟนสาวชาวไทยท่าทางเซ็กซี่ยืนเต้นซ้ายย้ายขวาอย่างออกรส บรรยากาศเรียกได้ว่าเมามัน ใครอยากเต้น เต้น ใครอยากดื่ม ดื่ม ใครอยากกิน กิน ใครอยากขอเพลง ก็ขอ ใครอยากชวนใครเต้นก็ชวน

                บนเวทีนักร้องร่างผอมบางผมหยิกยาวเคลียไหล่ใส่เสื้อสีแสดไว้ข้างใน เสื้อคลุมสีเทาขึ้นมาร้องคิวต่อมา จากนั้นเป็นนักร้องร่างท้วมเล่นกีต้าเองร้องเอง และร้องตามคำขอ ส่วนมากเป็นสไตล์คันทรี ซึ่งถูกกับนิสัยผมอยู่บ้าง อีกคนเป็นนักร้องหญิงหุ่น การแต่งตัว หน้าตา และลีลาการร้องสไตล์ลาติน แหม เยี่ยม  นักร้องชายคนปิดรายการรูปร่างอ้วนโกนศรีษะกลมเกลี้ยง ทาสีดำบนสันจมูกเรื่อยขึ้นไปเหนือคิ้ว คล้ายแบทแมน ใส่ร้องเท้าหนังหุ้มแข้ง กางเกงดำ เสื้อคลุมหนังสีดำ กำไรแหวน เพียบ ใส่ตุ้มหูสีดำด้านซ้ายบอกนัยบ้างอย่าง เขาร้องเพลง ด้อน คราย ซึ่งมีความหมายว่า อย่าร้องไห้เป็นเพลงสุดท้ายแล้ววิ่งหายไปหลังเวทีโดยไม่ฟังเสียงร้องขอของใครอีก

                ตีหนึ่งเศษผมขอตัวกลับบ้านก่อน เพื่อนโยกโย้สักครู่จึงชวนมาต่อกันที่ร้านข้าวต้ม แต่แปลกเพื่อนก็ไม่กินข้าวต้ม กลับสั่งเบียร์มานั่งดื่มต่ออย่างสบายอารมณ์ ตีสองเศษเมื่อผมขอตัวกลับอีกครั้ง เพื่อนให้ลูกน้องคนสนิทซื้อเบียร์ให้ผมอีกสองกระป๋องในฐานที่ไม่ได้พบกันนาน ผมปฏิเสธความหวังดีแต่เพื่อนไม่ฟังเสียง เมื่อไม่อาจปฏิเสธได้จึงขอเปลี่ยนเป็นนม ในที่สุดผมและเพื่อนก็แยกจากกันอีกครั้งตามวิถีทางแห่งตน

                ผมทบทวนชีวิตของวินัยเท่าที่ได้รับข้อมูลจึงพอสรุปคร่าว ๆ ได้ดังนี้ หลังการลาเพศบรรพชิต เขาไปทำงานเป็นพ่อค้าอิสระ รับแลกเปลี่ยนพระเครื่องพระบูชา เป็นมัคคุเทศก์อยู่ระยะหนึ่ง ต่อจากนั้นไปเป็นนักร้องและนักดนตรีเพลงร็อค จากนั้นตั้งโรงเรียน กศน. และในที่สุดมาทำงานบริษัทติดตั้งคอมติดตั้งโปรแกรมสำหรับเด็กอนุบาลและเด็กประถมตามโรงเรียนทั่วราชอาณาจักร ก็นับว่าประสบความสำเร็จด้วยดี  แต่สิ่งหนึ่งที่เขายืนยันว่าได้ดำเนินการมาโดยตลอดนั้นก็คือการดื่มเบียร์ ซึ่งดูเหมือนว่าเขาจะมีความภาคภูมิใจมาก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น